ตามที่มีประกาศให้ผู้ประกอบการจดแจ้งขอเป็นผู้ประกอบการบัญชีชุดเดียว ซึ่งในปี พ.ศ. 2562 รูปแบบการชำระเงินในประเทศไทยจะเปลี่ยนไปเป็นระบบ e-Payment เกือบทั้งหมด สืบเนื่องมาจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 ได้มีมติอนุมัติงบประมาณ “โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล” 3.75 พันล้านบาทแล้ว ยังเห็นชอบในหลักการของ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) ตามที่กระทรวงการคลังเสนออีกด้วย แผนดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศไทยให้เข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) อย่างครบวงจร โดยขั้นตอนถัดไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ เพื่อผลักดันแผนงานนี้ ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment Master Plan ประกอบด้วย 5 แผนงานสำคัญ ได้แก่
1. ระบบการชำระเงินแบบ Any ID (นานานาม)
2. การขยายการใช้บัตร
3. ระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
4. e-Payment ภาครัฐ
5. การให้ความรู้และส่งเสริมการใช้ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
การบูรณาการระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุนของระบบ ผ่านการพัฒนาระบบ e-Tax Invoice ระบบนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่ม และระบบนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลภาษีที่ครบถ้วนมากขึ้น สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อกำหนดนโยบายการบริหารจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั่วถึง และเป็นธรรม อันจะนำไปสู่การบริหารจัดการรายได้ที่ดีเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป
เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศพระราชกำหนดการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2558 และพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 595) พ.ศ. 2558โดยเนื้อหาตามพระราชกำหนดฯ และพระราชกฤษฎีกาฯมีสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดในหรือก่อนวันที่31ธันวาคม2558ไม่เกิน500ล้านบาท และจดแจ้งการจัดทำบัญชีและงบการเงินให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ (บัญชีเล่มเดียว) ต่อกรมสรรพากรจะได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบภาษีอากรย้อนหลัง ทั้งนี้ กรมสรรพากรจะเปิดให้มีการจดแจ้งการใช้บัญชีเล่มเดียวผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากรhttp://www.rd.go.thตั้งแต่วันที่ 15มกราคม พ.ศ.2559ถึง 15 มีนาคม พ.ศ. 2559 (ดูขั้นตอนการสมัครด้านล่าง)
- กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใดอยู่ระหว่างถูกการตรวจสอบภาษีอากรเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีปลอมหลีกเลี่ยงภาษีอากรหรืออยู่ในระหว่างการดำเนินคดีก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559 บริษัทฯยังคงสามารถจดแจ้งการใช้บัญชีเล่มเดียวต่อกรมสรรพากรได้ โดยกรมสรรพากรจะดำเนินการเฉพาะกรณีนั้นๆ ต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ
- สำหรับกรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งมีทุนชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน5ล้านบาทและมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน30ล้านบาทในรอบระยะเวลาบัญชีปี2558และได้มีการจดแจ้งต่อกรมสรรพากรในการใช้บัญชีเล่มเดียว จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล 2รอบระยะเวลาบัญชีดังนี้
– ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิ ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2559
– ยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2560ดังนี้
(1) สำหรับกำไรสุทธิส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาทยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และ
(2) ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล เหลือร้อยละ 10ของกำไรสุทธิสำหรับกำไรสุทธิส่วนที่เกิน 300,000บาท
- กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นจะถูกเพิกถอนจากการยกเว้นการตรวจสอบภาษีอากรย้อนหลังและให้ถือว่าบริษัทฯนั้นไม่เคยได้รับสิทธิใดๆตามพระราชกำหนดฉบับนี้
- ให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินการเพื่อให้สถาบันการเงินที่อยู่ในกำกับดูแลใช้บัญชีและงบการเงินที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแสดงต่อกรมสรรพากรในการยื่นรายการภาษีเงินได้เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมทางการเงินและขออนุมัติสินเชื่อกับสถาบันการเงินตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
สิทธิประโยชน์มากมายสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ โดยผู้ประกอบการสามารถสมัครเป็นผู้ประกอบการบัญชีชุดเดียวได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการจดแจ้งขอเป็นผู้ประกอบการบัญชีชุดเดียว (SME)
1. เข้าเว็บไซต์สรรพากร : www.rd.go.th จะปรากฎหน้าจอดังต่อไปนี้ และให้คลิกที่คำว่า “ระบบแจ้งขอเป็นผู้ประกอบการบัญชีชุดเดียว (SME)” ดังรูปที่ 1
รูปที่ 1 : คลิกเข้าสู่ระบบ
2. หลังจากนั้นจะปรากฎหน้าจอดังต่อไปนี้ แล้วให้คลิกที่ปุ่ม “ยื่นคำร้องขอจดแจ้งบัญชีชุดเดียว” ดังรูปที่ 2
รูปที่ 2 : ระบบยื่นคำร้อง
3. เมื่อคลิกปุ่ม “ยื่นคำร้องขอจดแจ้งบัญชีชุดเดียว” เรียบร้อยแล้วจะปรากฎหน้าจอให้กรอกข้อมูลสำหรับผู้ประกอบการ (ข้อมูลบริษัท) ดังรูปที่ 3
รูปที่ 3 : กรอกข้อมูลผู้ประกอบการ
4.เมื่อกรอกข้อมูลผู้ประกอบการเรียบร้อยให้กรอกข้อมูลส่วนที่ 2 ชื่อผู้มีอำนาจลงนาม เมื่อกรอกข้อมูลสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วให้คลิกปุ่ม “ลงทะเบียน” ดังรูปที่ 4
รูปที่ 4 : ลงทะเบียน
5. เมื่อคลิกลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วระบบจะแจ้งว่าเราได้ทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ดังรูปที่ 5 เราสามารถพิมพ์แบบไว้เป็นหลักฐานได้ โดยคลิกที่คำว่า **พิมพ์แบบ**
6. เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว เราสามารถตรวจสอบการลงทะเบียนว่าเรียบร้อยหรือไม่โดยการกลับไปที่หน้าลงทะเบียนแล้วคลิกปุ่ม “ตรวจสอบการลงทะเบียนการจดบัญชีชุดเดียว” ดังรูปที่ 6
รูปที่ 6 : ตรวจสอบการลงทะเบียน
7. กรอกข้อมูลชื่อผู้ประกอบการและเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของท่าน แล้วคลิกค้นหา ดังรูปที่ 7
รูปที่ 7 : ตรวจสอบการลงทะเบียน
8. ระบบจะแสดงข้อมูลการลงทะเบียนของบริษัทของท่านดังรูปที่ 8 แสดงว่าท่านได้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
รูปที่ 8 : ข้อมูลการลงทะเบียน
9. หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะมี e-mail ตอบกลับมาจากสรรพากรดังรูปที่ 9
รูปที่ 9 จดหมายตอบรับการลงทะเบียนจากสรรพากร
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการแก้ไขข้อมูลที่กรอกผิดพลาด โทรสอบถามได้ที่ rd call center เบอร์โทร : 1161
หรือต้องการปรึกษาเรื่องจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทดูรายละเอียดที่ จดทะเบียนบริษัท
หากต้องการปรึกษาเรื่องเช่าสำนักงานเสมือน ออฟฟิศเสมือน ดูรายละเอียดที่ : Bkkservebiz : Virtual Office : สำนักงานเสมือน
Hotline : 085-159-6088