การทำธุรกิจนั้น เราควรจะศึกษาหรือปรึกษาผู้รู้ ให้ช่วยวิเคราะห์ว่ารายได้หรือค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ ในกิจการของเรานั้น จะต้องมีภาษีอะไรที่มาเกี่ยวข้องบ้าง อันได้แก่ ภาษี หัก ณ ที่จ่าย ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีซ้อน เพื่อว่าจะได้นำไปเป็นแม่แบบในการปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตัวอย่างเช่น เรื่องภาษี หัก ณ ที่จ่าย ทางด้านรายได้ก็แน่นอนว่า ถ้าเราอยู่ในธุรกิจบริการ โดยปกติเมื่อลูกค้าชำระค่าบริการเขาจะต้องหัก ภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินที่เรียกเก็บก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นบริการชนิดไหน เช่น ค่าเช่า หัก 5% ค่านายหน้า 3% ค่าโฆษณา 2% สมมุติว่า เราให้เช่าอาคารราคา 10,000 บาท ถูกหัก 5% เราจะได้รับเงิน 9,500 บาท บวกกับหนังสือรับรอง หัก ณ ที่จ่าย จำนวน 500 บาท
ซึ่ง 500 บาทนี้ ใช้เป็นเครดิตภาษี นิติบุคคลในปีเดียวกันได้ ที่สำคัญเราจะได้รู้ว่าเราได้ถูกเสียภาษีไปล่วงหน้าแล้ว และถึงแม้ว่าขาดทุนก็ขอคืนลำบาก เพราะจะเป็นการวางกับดักไว้ ส่วนด้านค่าใช้จ่ายนั้น สำคัญที่ถ้าเราไม่ได้หัก ณ ที่จ่าย ตามที่กฎหมายกำหนดจะกลายเป็นว่า ถ้าเขาตรวจเจอเราต้องเป็นคนจ่ายเองแทนที่แต่แรกเราสามารถหักจากซัพพลายเออร์ได้ จึงควรทำ Tax Mappingไว้เป็นแบบคู่มือง่ายๆ ดังตารางต่อไปนี้
ที่มา : หนังสือกับดักภาษี