ขั้นตอนการแก้ปัญหาเมื่อเจอหมายเรียกตำรวจเศรษฐกิจ

ถ้าเจอหมายเรียกจากตำรวจเศรษฐกิจจะต้องทำอย่างไร

ในช่วงเดือน พฤศจิกายน ที่ผ่านมาสำหรับเจ้าของบริษัทที่ไม่ได้ยื่นงบการเงินในปี 2558 น่าจะได้รับจดหมายจากหน่วยงานที่ไม่ค่อยอยากจะอยากเปิดอ่านสักเท่าไหร่ นั้นคือจดหมายจากหน่วยงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ แค่เห็นชื่อก็จะเป็นลมแล้วใช่ไหมค่ะ หากท่านใดได้รับจดหมายจากหน่วยงานนี้ไม่ต้องตกใจจนเกินเหตุขอให้ตั้งสติดีๆไว้ก่อน ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไข
หมายเรียกตำรวจเศรษฐกิจ

เมื่อเปิดอ่านข้อความในจดหมายก็อย่าเพิ่งตกใจมากกว่าเดิม บอกแล้วให้ตั้งสติดีๆไว้ก่อน เพราะที่หัวจดหมายมีข้อความตัวใหญ่ๆว่า “หมายเรียกผู้ต้องหา” และในเนื้อความของจดหมายก็จะมีรายละเอียดของบริษัทเรา บอกว่าบริษัทเรามิได้ยื่นงบการเงินภายในเวลาที่กำหนด รอบปีบัญชี 2558 (โทษปรับนิติบุคคลไม่เกิน 50,000 บาท และกรรมการผู้มีอำนาจไม่เกิน 50,000 บาท) และให้ไปติดต่อที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ อาคาร 2 ชั้น 7 ถนนสาทรเหนือในวันที่ทางตำรวจกำหนด

กองบังคับการปราบปราม (อาคาร2)
กองบังคับการปราบปราม (อาคาร2)

เมื่อเราทราบข้อมูลแล้วว่าหมายเรียกนี้เกิดจากการที่เราไม่ได้ยื่นงบปี 2558 เราก็มาเริ่มแก้ไขปัญหากันทีละขั้นตอนกัน จริงๆ เราก็น่าจะพอรู้ตัวกันอยู่แล้วว่าเรามีความผิดที่เราเปิดบริษัทมาแล้วไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร ไม่เป็นไรค่ะ ปัญหาเกิดแล้วก็ต้องแก้ไขไปตามขั้นตอน โดยจะขอแนะนำขั้นตอนการแก้ไขดังต่อไปนี้

1. รีบโทรไปติดต่อกับตำรวจเจ้าของเรื่องตามเบอร์โทรที่ให้ไว้ แล้วนัดหมายเข้าไปติดต่อเจรจาที่กองกำกับการ 5 ถนนสาทรเหนือ อาคาร 2 ชั้น 7 ในจดหมายจะมีแผนที่ไว้ให้อยู่แล้วหาไม่ยากค่ะ

img_5292

2. ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ชั้น 7 จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องและสอบถามเราว่าจะดำเนินการอย่างไร ไม่ต้องกลัว เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดจาดี อธิบายดีค่ะ เราก็บอกเขาไปเลยว่าเราจะรีบดำเนินการยื่นงบการเงินทั้งหมดที่ค้างอยู่และยินดีจะเสียค่าปรับที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพราะถ้าเราจะขอจ่ายที่ตำรวจตรงหน่วยงานนี้บริษัทเราจะเสียค่าปรับตามอัตราโทษสูงสูดคือปรับบริษัท 50,000 บาท และปรับกรรมการอีก 50,000 บาท รวมเป็น 100,000 บาท ใช่ค่ะ 100,000 บาท โอ้ว…แม่เจ้า!!! บอกแล้วไงค่ะว่าให้บอกกับเจ้าหน้าที่ไปว่าเราจะไปจ่ายที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเอง เราจะเสียค่าปรับยื่นงบล่าช้าที่ 12,000 บาท แล้วเจ้าหน้าที่เขาจะออกจดหมายฉบับหนึ่งเรื่อง “ส่งนิติบุคคลและตัวแทนมารับการเปรียบเทียบ” ให้เรานำไปยื่นเสียค่าปรับที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ทุกสาขา

3. เมื่อเราได้จดหมายมาแล้วให้ไปเสียค่าปรับที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แล้วแฟ๊กซ์ใบเสร็จที่เราได้รับจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

4. รีบดำเนินการปิดงบการเงินที่ยังไม่ได้ปิดให้เรียบร้อยแล้วนำไปยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและยื่นแบบ ภงด.50 กับกรมสรรพากรให้เรียบร้อย ตรงนี้มีค่าปรับกรมสรรพากรอีกนะ ค่าปรับงบ 2,000 บาทและค่าปรับแบบอีก 2,000 บาท รวมเป็น 4,000 บาท ไม่รวมค่าภาษีหากมีภาษีที่ต้องเสีย

หลังจากที่ไปเสียค่าปรับมาเรียบร้อยแล้วแนะนำว่าจะต่อไปจะต้องจัดทำบัญชีและยื่นภาษีให้ถูกต้องทั้งยื่นภาษีรายเดือนและยื่นภาษีปลายปีให้ถูกต้องด้วย จะได้ไม่ต้องมาเสียค่าปรับโดยใช่เหตุอีก เพราะสุดท้ายถ้าเราต้องการจะใช้บริษัทของเราในการทำธุรกิจและเจริญเติบโตต่อไปในอนาคต เราก็ควรที่จะทำให้ถูกต้องเสียตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องตกใจกับจดหมายจากหน่วยงานราชการต่างๆที่จะตามมาค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ