ภาพวาดน้ำตาลนั้นคือภาพวาดที่ทำจากน้ำตาล และเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ “การเทน้ำตาล” “เค้กน้ำตาล” หรือ “ตะเกียงน้ำตาล” เป็นทั้งขนมและภาพวาดที่สามารถรับประทาน โดยได้ผสมผสานวัตถุดิบแสนอร่อยและยังสามารถสร้างความเพลิดเพลินทางจิตใจได้อีกด้วย
การวาดภาพด้วยน้ำตาลนั้นเดิมเป็นธุรกิจพื้นบ้านขนาดเล็ก ไม่เพียงแต่เป็นอาหารหัตถกรรมพื้นบ้านของจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นของเล่นแบบดั้งเดิมสำหรับเด็กชาวจีนอีกด้วย ทุกวันนี้ ผู้คนยังคงถูกดึงดูดด้วยแผงขายภาพวาดน้ำตาล ซึ่งศิลปินที่วาดภาพด้วยน้ำตาลมักจะใช้ช้อนแทนปากกาและน้ำตาลเปรียบเสมือนหมึกเพื่อสร้างลวดลายสวยงามด้วยน้ำตาลตามรูปทรงต่าง ๆ ขั้นตอนการทำนั้นมีความสะอาด เรียบเนียน และน่ามอง และนี้คือผู้เชี่ยวชาญด้านการวาดภาพด้วยน้ำตาล เฉิน หลิงหลิง
โดยในมือถือช้อนยาวและการขยับข้อมืออย่างอิสระจนออกมาเป็นรูปดอกไม้ นก ปลา แมลง และสัตว์ต่างๆ เฉิน หลิงหลิงมีทักษะการวาดภาพด้วยน้ำตาลที่แสนยอดเยี่ยม เธอเป็นผู้สืบทอดการวาดภาพจากน้ำตาลรุ่นที่สี่ โดยตัวเธอได้เล่าว่าเธอมีภูมิหลังทางครอบครัวและได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากการวาดภาพด้วยน้ำตาลมาตั้งแต่เด็ก
การวาดภาพด้วยน้ำตาลไม่เพียงแต่เป็นความทรงจำในวัยเด็กของใครหลายๆคนเท่านั้นแต่ยังกลายเป็นอาชีพได้อีกด้วย ซึ่งเป็นเวลากว่าหลายปีที่เธอใช้ทักษะนี้ในการหาเลี้ยงชีพตัวเอง และเนื่องจากเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่สามารถจับต้องได้ จึงได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และผู้คนเริ่มหันมาสนใจภาพวาดน้ำตาลมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ชื่นชอบการวาดภาพด้วยน้ำตาลจากทั่วประเทศเดินทางมาเรียนรู้กับเธอหลังจากได้เห็นผลงานการวาดภาพด้วยน้ำตาลของเธอ และเธอยังได้มีโอกาสเดินทางไปเป็นวิทยากรบรรยายสอนที่มหาวิทยาลัย เพื่อให้ความรู้กับนักศึกษาและทำให้ภาพวาดน้ำตาลเป็นที่รู้จักมากขึ้น ครอบครัวของเฉิน หลิงหลิง สืบทอดภาพวาดน้ำตาลมาแล้วถึง 4 รุ่น และเธอหวังว่ามันจะถูกส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน เฉกเช่นเดียวกันกับเธอที่สืบทอดมรกทางวัฒนธรรมที่ไม่สามารถจับต้องได้มาจนถึงปัจจุบัน
การวาดภาพด้วยน้ำตาลเป็นศิลปะพื้นบ้านที่สำคัญ เป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนามรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่สามารถจับต้องได้ และเป็นสมบัติของชาติที่บรรพบุรุษของเราทิ้งไว้ มีองค์ประกอบแบบจีนในรูปแบบต่างๆ และมีเสน่ห์ทางศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ กลิ่นของน้ำเชื่อม ทักษะในการวาดภาพ ความประณีตของลวดลาย และความหมายอันเป็นมงคล ล้วนให้ความมีชีวิตชีวา