เมืองหลินอี เหอตง: ดอกบัวน้อย “เบ่งบาน” วิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ของการฟื้นฟูชนบท

ถึงฤดูเก็บเกี่ยวรากบัวอีกครั้ง และทุ่งบัวในหมู่บ้าน โต้วหลิง เมืองบาหู เขตเห่อตง เมืองหลินอี้เต็มไปด้วยผู้คนที่พลุกพล่าน เขตเหอตง เมืองหลินอี้ ได้มีการพัฒนาการปลูกบัวในหลายรูปแบบ เช่น ก่อตั้งสหกรณ์รากบัว พัฒนาการท่องเที่ยวการชมดอกบัว รวมถึงการสร้างระบบอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับดอกบัว

การฟื้นฟูชนบทสร้างแรงผลักดันใหม่ หมู่บ้านโต้วหลิง เมืองบาหู ปลูกบัวมานานกว่า 30 ปี ซึ่งมีดินร่วนทรายเหนียวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในหมู่บ้าน ด้วยข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวดอกบัวได้ในเดือนกรกฎาคม-เดือนสิงหาคมของทุกๆปี ซึ่งในสายตาของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นดอกบัว เมล็ดบัว หรือก้านบัว ล้วนเป็นสมบัติที่สามารถสร้างรายได้ได้ โดยทั่วไปแล้วการเก็บเมล็ดบัวจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 10,000 หยวนต่อเอเคอร์ และเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกพืชทั่วไป

การปลูกบัวไม่เพียงแต่จัดการได้ง่ายกว่า แต่ยังช่วยประหยัดกำลังคนและมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมาก หลังจากที่ได้รู้ถึงคุณประโยชน์ของบัวแล้ว หมู่บ้าน 8 แห่งในพื้นที่โดยรอบก็ได้เริ่มทำการปลูกบัวด้วยเช่นกัน และยังได้มีการจดทะเบียนสหกรณ์รากบัวเมื่อปี พ.ศ. 2555 ครอบคลุม 6 หมู่บ้าน

โดยทุกๆฤดูท่องเที่ยวจะมีการติดต่อกับพ่อค้าแม่ค้าบางรายเพื่อรวบรวมรากบัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ จะสามารถเก็บรากบัวได้มากกว่า 100,000 กิโลกรัม และสร้างรายได้จากรากบัวเป็นจำนวน 8,000 – 10,000 หยวนต่อเอเคอร์ต่อครัวเรือน นอกจากนี้ในปี 2555 บริษัทบัวประดับที่ดำเนินกิจการในกรุงปักกิ่งมาหลายปีกายกวงหยงได้เข้ามาลงทุนปลูกบัวประดับ ซึ่งปัจจุบันเป็นฐานปลูกบัวประดับที่ใหญ่ที่สุดในเมืองบาหู โดยมีโรงเพาะปลูก 46 แห่ง พื้นที่เปิดโล่ง 70 เอเคอร์และสระเพาะปลูก ซึ่งในครึ่งปีแรกมูลค่าผลผลิตอยู่ที่ 1.5 ล้านหยวน และส่งเสริมการจ้างงานคนในพื้นที่โดยรอบมากกว่าอีก 30 คน